ในปี 2030 เทคโนโลยีคาดว่าจะมีการพัฒนาไปอีกขั้น ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงโลกในหลายด้านอย่างรุนแรง รวมถึงชีวิตประจำวัน การทำงาน และวิธีการที่เรามองเห็นและติดต่อกับโลกใบนี้ ต่อไปนี้คือบางเทคโนโลยีที่คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในปี 2030:

1. ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีความสามารถสูงขึ้น

• AI จะกลายเป็นส่วนสำคัญในหลายๆ ด้าน เช่น การแพทย์, การศึกษา, การผลิต, และการสื่อสาร โดย AI ในอนาคตจะสามารถคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจได้เหมือนมนุษย์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการทำงานร่วมกับมนุษย์ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูง
• ระบบ AI จะเริ่มเข้ามาช่วยในการวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะในการค้นหาวิธีรักษาโรคใหม่ๆ หรือการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน

2. การขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Fully Autonomous Vehicles)

• รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองจะกลายเป็นส่วนสำคัญของระบบการขนส่งสาธารณะและส่วนตัวในปี 2030
• เราจะเห็นการใช้รถยนต์ไร้คนขับที่มีความปลอดภัยสูงในการขนส่งสินค้าและผู้คนอย่างแพร่หลาย และอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการขนส่งและการเมือง

3. เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ 6G

• เทคโนโลยี 6G ที่จะมาแทนที่ 5G จะให้ความเร็วในการเชื่อมต่อที่สูงกว่า 100 เท่าจาก 5G
• การเชื่อมต่อที่เร็วและมีความหน่วงต่ำจะเป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมโยงโลกที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงการใช้งาน Internet of Things (IoT) อย่างเต็มรูปแบบ และการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหล

4. คอมพิวเตอร์ควอนตัม (Quantum Computing)

• คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์และการคำนวณที่ซับซ้อนอย่างที่คอมพิวเตอร์ทั่วไปไม่สามารถทำได้ เช่น การจำลองโมเลกุลเพื่อพัฒนายาใหม่ๆ หรือการคำนวณที่ใช้ในด้านฟิสิกส์ระดับสูง
• คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจช่วยในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในการรักษาความปลอดภัยดิจิทัลและสร้างระบบป้องกันการโจมตีจากการแฮ็ก

5. เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) และการแพทย์ที่กำหนดเอง (Personalized Medicine)

• การพัฒนาทางด้านชีวภาพจะช่วยให้สามารถรักษาโรคได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้เทคโนโลยี CRISPR ในการตัดต่อยีน เพื่อรักษาหรือป้องกันโรคที่มีรากฐานจากพันธุกรรม
• การแพทย์แบบกำหนดเองจะทำให้สามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับแต่ละบุคคลตามข้อมูลทางพันธุกรรม

6. เทคโนโลยีความจริงเสมือน (VR) และความจริงเสริม (AR)

• ในปี 2030 เทคโนโลยี VR/AR จะก้าวหน้าไปอย่างมาก เราจะเห็นการใช้ VR/AR ในการศึกษา, การทำงาน, การประชุมทางธุรกิจ, และแม้กระทั่งในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเดินทางเสมือนจริง หรือการแสดงผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโลกจริงผ่านแว่นตาหรืออุปกรณ์ที่สวมใส่ได้

7. หุ่นยนต์ที่มีความสามารถทางสังคม (Social Robots)

• หุ่นยนต์จะไม่เพียงแค่ช่วยในด้านงานบ้านหรือโรงงาน แต่จะมีบทบาทในด้านการดูแลสุขภาพและการสื่อสารทางสังคม
• หุ่นยนต์เหล่านี้จะมีความสามารถในการเข้าใจอารมณ์ของมนุษย์และตอบสนองได้เหมือนมนุษย์ เช่น การช่วยดูแลผู้สูงอายุ, การให้คำแนะนำด้านสุขภาพ, หรือการสื่อสารในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน

8. พลังงานสะอาดและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

• พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, และพลังงานจากชีวมวลจะกลายเป็นแหล่งพลังงานหลักในการผลิตไฟฟ้า
• เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การเก็บพลังงานจากแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงและการใช้พลังงานจากแหล่งที่ยั่งยืนจะช่วยให้โลกสามารถลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิลและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

9. การผลิต 3D และวัสดุที่ออกแบบได้

• การใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3D จะทำให้การผลิตสินค้าและอุปกรณ์ต่างๆ สามารถทำได้ตามความต้องการของลูกค้าในทันที
• วัสดุที่สามารถปรับแต่งหรือออกแบบได้ใหม่ เช่น วัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษตามความต้องการเฉพาะ จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในด้านการก่อสร้าง, การแพทย์, และการผลิต

10. การสำรวจอวกาศ

• การสำรวจอวกาศจะพัฒนาไปอีกขั้นโดยมีการส่งมนุษย์ไปยังดวงจันทร์และดาวอังคาร และอาจเริ่มมีการตั้งอาณานิคมหรือฐานทัพในอวกาศ
• เทคโนโลยีการเดินทางในอวกาศจะถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและประหยัดมากขึ้น

ในปี 2030 โลกจะเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่แปลกใหม่และยิ่งใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่าที่เคยเห็นมาก่อน